สวัสดีค่ะ มีมิตรสหายสอบถามกันมามากมายเกี่ยวกับการไปติ่งดาราในต่างประเทศ ทางเราเลยมาแชร์ประสบการณ์และข้อมูลคร่าวๆ ให้ไปติ่งด้วยกันค่า
หลักๆ นอกจากทีมงานจะไปติ่งดาราที่รักแล้ว เรายังไปเก็บข้อมูลดูการทำงานของพวกเขาด้วย เพื่อพัฒนางานของพวกเราค่ะ 😊 และที่สำคัญสุดๆ พวกเราไปตามล่าหารางวัลมาฝากเพื่อนๆที่จะเข้าร่วมงาน Muggle Con ครั้งต่อไปด้วย อุ๊ยยยย ประโยคนี้หมายความว่ายังไงอ่ะ ติ๊กต่อกๆ
อนึ่ง บอกก่อนว่าการไปติ่งดาราแบบนี้มันคือ “พลังการเปย์” ล้วนๆค่ะ! เงินเท่านั้นที่น็อคเอฟรี่ติง สรุปแบบง่ายๆ มันคือการจ่ายเงินเพื่อเจอเขา ข้อดีคือเราไม่ต้องพึ่งดวง จ่ายไปยังไงก็ได้เจอ ข้อเสียคือเสียเงิน(เยอะ) และถ้าเป็นคนดังมากๆๆๆ อย่างเช่น Tom Hiddleston, Benedict Cumberbatch ก็อาจจะมีสงครามแย่งตั๋วเกิดขึ้น แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเค เพราะเวลาไปขอเทพ เราก็จะได้บอกแค่ว่าขอให้กดบัตรได้ ไม่ต้องแถมไปด้วยว่า กดได้แล้วขอให้ได้ไซน์ด้วย
ทั้งนี้ ทางทีมงานเลือกใช้ Tokyo Comic Con เป็นต้นแบบ แต่จริงๆแล้วมันมีงาน Convention แบบนี้อยู่ทั่วโลกเลย ลองสืบหาข้อมูลกันได้ สะดวกประเทศไหนไปประเทศนั้น หากไม่มีปัญหาด้านทุนทรัพย์อยากแนะนำให้ไปงานในยุโรปและอเมริกาเพราะจะมีดารามาเยอะกว่างานฝั่งเอเชียค่ะ
ข้อมูลบางส่วน เชื่อว่าคนไทยๆหลายคนข้อมูลน่าจะเยอะกว่าพวกเราอีก แนะนำกันได้ตามสะดวกเลยนะคะ ^_^
💸 งบประมาณ
คิดว่าน่าจะเป็นอย่างแรกที่ทุกคนอยากรู้กัน ซึ่งบอกก่อนว่ามันแพงไม่น้อยเลย งบประมาณคร่าวๆ สมมติอยู่เที่ยว 5 วันก็ประมาณ 5x,xxx – 6x,xxx บาท
แบ่งออกเป็น
- ตั๋วเครื่องบิน ⁓ 20,000 บาท
- ที่พัก ⁓ 8,000 บาท
- ค่ากิน ⁓ 5,000 บาท
- ตั๋วเข้างาน + ตั๋วอื่นๆ ⁓ 20,000 บาท
ราคาจะค่อนข้างเลื่อนไหลมากๆ เพราะ
- ช่วงราคาของตั๋วเครื่องบินกับที่พักค่อนข้างกว้าง ตอนช่วงเราไปตั๋วเครื่องบินมีแต่ 2หมื่นอัพ full service แต่ตอนนี้ low cost กลับมาบินแล้วนะ เห็นเริ่มต้นที่หมื่นต้นๆ ก็มีค่ะ โรงแรมขนาดกลางหรือใครสะดวก Hostel ก็มี ใช้พวก Booking, Agoda มีโปรโมชั่นเยอะมาก แถมดูได้ด้วยว่าอยู่ห่างจากสถานีรถไฟเท่าไหร่
- อาหารการกินแล้วแต่ไลฟ์สไตล์ บางคนสะดวกร้านสะดวกซื้อ บางคนทานร้านดัง แต่จริงๆ เราว่าร้านอาหารโลคอลเดินสุ่มๆ เข้าไปก็อร่อยนะคะ ลองถามพนักงานโรงแรมว่าแถวนี้ร้านข้าวไหนอร่อยเค้าก็แนะนำได้นะ และขอแผนที่จากโรงแรมด้วยค่ะ ให้เค้าวงให้เลยว่าร้านอยู่ตรงไหน รอบๆ โรงแรมมีอะไรน่าสนใจบ้าง
- ตั๋วเข้างาน อันนี้ราคาจะไม่เปลี่ยนแปลงมากแล้ว ราคาวันละ 4,400 เยน แต่!!! ตั๋วถ่ายรูปและขอลายเซ็นจ่ายเพิ่มนะจ๊ะ มีเรตตั้งแต่ประมาณ 25,000 เยน ไปจนถึง 45,000 เยนเลย แล้วแต่ความดังของนักแสดง(วัดกระแสในญี่ปุ่นนะ ไม่ใช่กระแสโลก)
หมายเหตุตัวโตๆว่าราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามค่าเงินและโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินค่า
⭐ การจองตั๋ว Tokyo Comic Con
การไปงาน Tokyo Comic Con เนี่ยเราจะต้องซื้อตั๋วเข้างานก่อน ไม่งั้นเราจะไม่ได้เข้างานนะ ส่วนการจะได้ถ่ายรูปขอลายเซ็นมันเป็นส่วน Add On จ่ายเพิ่มอีก ใครอยากได้แค่ถ่ายรูปไม่เอาลายเซ็นก็ได้ หรือจะเอาแต่ลายเซ็นก็ได้เหมือนกัน
- ตั๋วเข้างาน เมื่อก่อนมีขายแบบตั๋วสามวันซึ่งจะถูกกว่าซื้อแบบขายแยก แต่ปีล่าสุดนี้มีแต่ตั๋วแยกวัน อยากเข้าวันไหนก็กดตามนั้น
- ตั๋วถ่ายรูป
- ตั๋วลายเซ็น
เราสามารถเข้าไปซื้อตั๋วทางหน้าเว็บสำหรับชาวต่างชาติที่นี่เลย http://www.hollycontokyo.com
เมื่อเข้าไปแล้วให้สมัครสมาชิกก่อน จากนั้นรักใครอยากเจอใครก็เลือกช้อปปิ้งได้ตามอัธยาศัยนะคะ เสร็จแล้วชำระเงินด้วยบัตรเครดิตที่ออกในประเทศไทยเหมือนการซื้อของออนไลน์ตามปกติเลยค่ะ
ตัวเว็บไชต์ใช้ค่อนข้างง่ายเป็นมิตรกับคนต่างชาติดี แต่ถ้าดาราฮอตๆ ก็อาจต้องทำใจว่ามีค้างกันบ้างตอนเปิดจองตั๋ว และอาจจะเป็นสงครามกดบัตรได้เช่นกันค่ะ
งาน convention แบบนี้เมื่อซื้อตั๋วไปแล้วมักจะไม่สามารถ refund ได้แต่ถ้าหากทางงานประกาศ guest เพิ่มเติมหรืออยากจะเปย์เพิ่มเราสามารถเข้าไปซื้อตั๋วเพิ่มได้เรื่อยๆจนกว่าจะขายหมดค่ะ
✅ เช็คลิสต์ก่อนเดินทาง
- กำหนดวันเดินทาง: งานจัดช่วงเดิมทุกปีคือประมาณสุดสัปดาห์ท้ายๆของเดือนพฤศจิกายน จัด 3 วันด้วยกันคือ วันศุกร์, เสาร์, อาทิตย์ เลือกกันได้ตามสะดวก หรือจะไปทุกวันก็ได้
- เช็คเรื่องการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นว่าต้องใช้อะไรยังไงบ้าง
- จองตั๋วเครื่องบิน
- จองที่พัก
- ซื้อประกันการเดินทาง อันนี้ทีมงานแนะนำซื้อเถอะค่ะ ประกันราคาหลักร้อย ไม่เกิดเหตุไม่เป็นไรแต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นนี่มีเสียหลักแสนหลักล้านนะคะ
- จองตั๋วงาน Tokyo Comic Con
- วางแผนการแต่งตัว (เราจะพูดถึงในตอนหน้าค่ะ)
🎒การเตรียมตัวก่อนวันงาน
ไปติ่งทั้งทีเราต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม กินอิ่มนอนหลับ จะได้ไปเจอดาราแบบเฟรชๆและได้สนุกกับกิจกรรมอื่นๆในงานอย่างเต็มที่ สิ่งที่ทีมงานเตรียมไปด้วยได้แก่
- เตรียมของที่อยากให้นักแสดงเซ็น เช่น การ์ด หนังสือ ฯลฯ หากไม่มีสามารถไปเลือกการ์ดหน้าโต๊ะเซ็นชื่อในวันงานได้ ส่วนใหญ่การ์ดที่ผู้จัดงานเตรียมให้จะเป็นการ์ดรูปถ่ายจากหนังต่างๆ ซึ่งอาจจะไม่มีเรื่องเราชอบ ดังนั้นเตรียมมาเองดีที่สุดค่ะ
- เตรียมบทพูดหรือคิดท่าถ่ายรูปไว้ล่วงหน้า เพราะเวลาเจอตัวจริงทุกอย่างจะเกิดขึ้นเร็วมากนะคะ ถ้าไปยืนคิดในแถวอาจจะตื่นเต้นจนผิดแผนได้ คิดซะว่าเหมือนไปขายงาน ใครพูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ แนะนำให้เขียนสคริปแล้วซ้อมพูดทุกวันก่อนไปค่ะ หรือกลัวล่กจริงๆ ถือโพยไปด้วยเลยค่ะ เราต้องพูดความรักของเราให้ครบ
- ซองพลาสติกแข็ง (card case) ขนาด A4 สำหรับเก็บการ์ดหรือรูปถ่าย ในงานมีจำหน่ายแต่ราคาแพงกว่าปกติ ควรเตรียมมาเองค่ะ ซองแบบนี้หาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียนทั่วไป ราคาเพียงซองละ 40 บาทแต่ป้องกันไม่ให้รูปถ่ายและการ์ดยับได้ดี เป็นของสำคัญที่ห้ามลืมเลยค่ะ
- หากมีของขวัญที่อยากให้ควรเลือกเป็นของขวัญที่มีฉลากภาษาอังกฤษ งดของฝากที่เป็นอาหารเพื่อไม่ให้มีปัญหาเวลานำเข้าประเทศญี่ปุ่นหรือเวลาที่ดาราต้องนำกลับประเทศค่ะ
- อีเมลยืนยันการซื้อตั๋วเข้างานตั๋วถ่ายรูปและลายเซ็น
- พาสปอร์ตและบัตรประชาชนหรือบัตรที่ราชการออกให้ ใช้ยืนยันตัวตนเวลารับตั๋วหน้างานและเผื่อกรณีฉุกเฉิน
- วัคซีนพาสปอร์ต หรือผลการฉีดวัคซีนตามเงื่อนไขการเข้าประเทศญี่ปุ่น หากไม่ได้ทำเล่มวัคซีนพาสปอร์ตสามารถเปิดแอปพลิเคชันหมอพร้อมให้เจ้าหน้าที่ดูได้ (เจ้าหน้าที่จะเทียบชื่อกับบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต)
- ถุงผ้าสำหรับช้อปปิ้งและเก็บของแจกฟรี บางปีทางงานจะแจกกระเป๋าแต่เชื่อเถอะว่ามันใส่ไม่พอหรอก
- powerbank
- รองเท้าที่ใส่สบาย เพราะเราจะยืนนานและเดินเยอะมาก
- ร่มพับและอุปกรณ์กันหนาวที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ เพราะเราอาจจะต้องเดินอ้อมไปอ้อมมาหรือต่อคิวนอกตึกค่ะ ประเทศญี่ปุ่นนี่เป็นเจ้าแห่งการต่อคิวเลยนะคะ ครั้งล่าสุดที่ไปคิวค่อนข้างขยับเร็วทำให้ไม่ต้องอยู่นอกตึกนาน แต่บางครั้งก็ต้องต่อคิวแบบตากฝนทั้งเปียกทั้งหนาวสู้ชีวิตกันมาก (เพราะจ่ายเงินมาแล้วเราถอยไม่ได้ค่ะ ฮ่าๆ)
- ถ้าเป็นคนเหนื่อยง่ายหิวง่ายแนะนำให้พก Energy Bar ไปด้วยเพราะรอร้านอาหารค่อนข้างนาน
- ทิชชู่เปียก-ทิชชู่แห้งสำหรับเช็ดมือ เช็ดหน้า หรือเอาไว้ซับน้ำตาแห่งความดีใจก็ได้ค่ะ
- พลาสเตอร์เผื่อฉุกเฉินเป็นแผลรองเท้ากัด ถึงจะมั่นใจว่ารองเท้าเราใส่สบายสุดๆ แต่เหตุไม่คาดฝันอาจเกิดได้เสมอค่ะ
- ศึกษาวิธีเดินทางไปสถานที่จัดงานจาก Google Map ดูรอบถ่ายรูปและเซ็นชื่อของเราแล้วคำนวณเวลาเดินทางให้ดี ควรไปถึงสถานที่จัดงานก่อนเวลาถ่ายรูป/เซ็นชื่อประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง เช่น ถ่ายรูปรอบ 13.00 น. ควรไปถึงงาน 11.00 น.
เรียกได้ว่าเตรียมพร้อมเหมือนไปเข้าค่ายเลยค่ะ
📆 วันงาน
พอถึงวันงานแน่นอนว่าทุกคนต้องตื่นเต้นมากๆใช่ไหมคะ ทีมงานเองก็เช่นกัน เราตื่นแต่เช้ารีบแต่งตัวออกเดินทางตามแผน ในวันนั้นอาจจะมีอีเวนท์อื่นๆจัดในฮอลล์ใกล้เคียง เพื่อนๆควรรีบมองหาป้ายงานของเราแล้วเดินตามไปเลย
ก่อนอื่นเราต้องไปรับบัตรเข้างาน มองหาป้าย Will Call แล้วเข้าไปต่อคิว เตรียมอีเมลยืนยันการสั่งซื้อให้เจ้าหน้าที่ดูเพื่อแลกบัตรเข้างาน แต่ก่อนเป็นบัตรห้อยคอแต่ครั้งล่าสุดเป็นสายรัดข้อมือแล้วค่ะ
เมื่อได้บัตรเข้างานแล้วต้องไปรับตั๋วถ่ายรูปและตั๋วลายเซ็นด้วย ในงานจะใช้คำว่า Celebrity Sign และ Photo (งานในยุโรปและอเมริกาอาจเรียกว่า Sign op และ Photo op) สำหรับ Tokyo Comic Con จุดรับตั๋วจะเป็นคนละจุดกับสายรัดข้อมือเข้างานนะคะ เดินตามป้ายหรือสอบถามเจ้าหน้าที่ตั้งแต่จุดรับสายรัดข้อมือเข้างานได้เลย เจ้าหน้าที่ในงานประมาณ 50% สื่อสารภาษาอังกฤษได้และยินดีช่วยเหลือ หากบังเอิญเจอคนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้และทางเราพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ก็ต้องพึ่งพาแอปแปลภาษาค่ะ
จุดรับตั๋วถ่ายรูปและลายเซ็นมักจะอยู่นอกฮอลล์ และคิวก็จะเริ่มตั้งแต่ตรงนี้ การถ่ายรูปและเซ็นชื่อถือเป็นกิจกรรมที่เราเข้าใกล้ตัวดารามากๆ ทางงานจึงมีกฎเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายที่เข้มงวดเพื่อความปลอดภัย ขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดนะคะ
- ห้ามใส่ชุดที่มีความแหลมคม เช่น เขาต่างๆ
- ห้ามนำพร็อพที่มีลักษณะคล้ายอาวุธเข้าโซน Celebrity area เช่น กระบอง เลื่อย ดาบ ปืน
- ห้ามใส่ชุดที่มีขนาดใหญ่หรือมีชิ้นส่วนยืนออกมาจากร่างกาย เช่น มีแขนหรือสายยื่นออกมา มีชิ้นส่วนของชุดที่ยื่นสูงกว่าตัวคนมากเกินไป
- ห้ามใส่ชุดที่เป็นก้อนๆหนาๆ (Bulky) เช่น ชุดมาสตอต
- ห้ามใส่หน้ากากสวมหัวหรือหน้ากากแบบที่ปกปิดใบหน้าทั้งหมด
หลังจากแลกตั๋วแล้วหากเรามีของขวัญที่อยากมอบให้ก็นำไปฝากในกล่องที่ทางงานจัดไว้ ดาราคนไหนที่เป็นที่นิยมในญี่ปุ่นก็อาจจะมีของขวัญล้นกล่องเลย พอหย่อนของขวัญเสร็จก็ได้เวลาเข้าโซนถ่ายภาพและเซ็นชื่อจริงๆแล้วค่ะ ตรงนี้ก็จะมีการตรวจตั๋วอีกครั้งและมีเจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋าตรวจโลหะคล้ายๆที่สนามบินเลย
หลังจากผ่านทุกด่านก็จะได้เข้ามาต่อคิวในงานอีกครั้ง ความตื่นเต้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามจำนวนคิวที่ค่อยๆสั้นลง ในคิวห้ามถ่ายรูปคนอื่น(เซลฟี่กันเองได้เล็กน้อย) ไม่ควรคุยเสียงดัง ใครจะเติมหน้าจัดผมเพื่อความเป๊ะก็เริ่มได้เลยค่ะ เสร็จแล้วจะมีเจ้าหน้าที่นำตะกร้ามาให้ฝากกระเป๋า ให้ฝากไว้ทั้งหมดยกเว้นของมีค่า ก่อนถึงห้องถ่ายรูปจะมีกระจกให้เช็คความเรียบร้อยอีกครั้งพร้อมๆกับมีเจ้าหน้าที่มาฉีกตั๋วเรา
ทีนี้ส่วนที่ตื่นเต้นที่สุดก็มาถึงนั่นคือคิวถ่ายรูปของเรานั่นเองค่ะ ในห้องจะมีคิวก่อนหน้า 2-3 คน พอถึงคิวเราดาราในดวงใจก็จะทักทาย ชวนคุยเล็กน้อย ตรงนี้ใครมีอะไรอยากพูดให้รีบพูด ทักทายเสร็จยืนให้ตรงจุดที่เขาแปะบนพื้น เซ็ตท่าแล้วตากล้องก็กดถ่ายทันที การถ่ายรูปใน convention เกือบทุกงานจะเป็นการถ่ายแบบมีแฟลช เจ้าหน้าที่กดชัตเตอร์ตามจำนวนตั๋วที่เราซื้อเข้ามา ไม่มีการเลือกรูป ไม่มีการถ่ายซ่อม หลังจากถ่ายรูปแล้วเราก็ขอบคุณและบอกลาได้เลย หาใครคุยนานอาจโดนสตาฟดึงออกนะคะ (ดาราบางคนชิลมากเป็นฝ่ายชวนคุยก็มีค่ะ แต่เราก็จะโดนสตาฟลากออกมาอยู่ดี) รวมเวลาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มทักทายจนถึงออกจากห้องถ่ายรูปประมาณ 30 วินาที
อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ที่เตรียมตัวมาทั้งหมดนี้เพื่อการเจอดาราในดวงใจแบบใกล้ชิดไม่เกิน 1 นาทีค่ะ
พอออกจากห้องถ่ายรูปแล้วให้เดินตามทางไปรับรูป เจ้าหน้าที่จะนำรูปมาวางเรียงกันให้เราหยิบเอง หลังจากได้รูปมาแล้วสังเกตที่มุมจะมี QR code เราสามารถแสกนเพื่อซื้อไฟล์รูปได้ด้วย ทีมงานเองก็ซื้อเพิ่มเพราะรูปที่ปริ้นท์ออกมาโดนแสงแฟลชทำร้ายพอสมควรต้องรีทัชผ่านแอปกันซักนิด อีกอย่างคือไหนๆอุตส่ามาเจอแล้วขอเก็บทั้งรูปถ่ายและไฟล์ไปเลย ได้รูปแล้วอย่าลืมใส่ซองที่เตรียมมาด้วยนะคะ
สำหรับการขอลายเซ็นจะไม่มีห้องแต่เป็นการต่อคิวเดินเข้าไปที่โต๊ะแจกลายเซ็นเลย อย่าลืมเอาของที่อยากให้เซ็นออกมาก่อนฝากกระเป๋านะคะ ใครที่ไม่มีของก็ไปเลือกการ์ดบนโต๊ะแจกลายเซ็นได้เลย การ์ดเหล่านี้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และหากต้องการให้ดาราเขียนชื่อ ผู้ช่วยจะให้เราเขียนชื่อลง post-it แล้วแปะไว้ก่อนส่งให้ดาราเซ็นค่ะ ถ้าคิวไม่ยาวเราจะมีโอกาสพูดคุยกับดาราที่โต๊ะแจกลายเซ็นได้นานกว่าการถ่ายรูปนะคะ ทั้งนี้ขึ้นกับตัวดาราเองด้วยว่าเค้าเหนื่อยมั้ย ในงานปีนี้ทีมงานของเราได้คุยอยู่หลายนาทีคุ้มค่าตั๋วสุดๆเลยค่ะ! แอบขายงานเรานิดหน่อยด้วย หวังว่าในอนาคตจะมีโอกาสได้เชิญมางานของเราบ้างนะคะ ส่วนดาราบางคนคิวเยอะต้องทำเวลาหรือเหนื่อยแล้วก็อาจจะได้แค่ทักทาย ตวัดมือเซ็นชื่อ แล้วก็บอกลาอย่างรวดเร็ว ดาราคนไหนอายุเยอะหรือไม่ค่อยได้ออกงานก็อาจจะเกิดการ “ถ่านหมด” ได้ค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับการเตรียมตัวไปติ่งในต่างประเทศ ไม่ยากเกินความสามารถของเพื่อนๆแน่นอนค่ะ ถึงแม้จะไปติ่งในประเทศอื่นแต่การเตรียมตัวก็จะคล้ายๆกัน ส่วนในตอนต่อไปเราจะมาแนะนำวิธีเตรียมตัวไปคอสเพลย์ในต่างประเทศกัน และอย่างที่บอกว่างานนี้ทีมงานไปตามล่าของรางวัลสำหรับงาน Muggle Con Thailand ครั้งต่อไปด้วย นั่นคือลายเซ็นคุณ Jamie Campbell Bower ผู้รับบทเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์วัยรุ่นจากภาพยนตร์ Harry Potter and the Deathly Hallows Part 2 และ Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald นั่นเองค่ะ
อย่าลืมมาลุ้นรับรางวัลและร่วมกิจกรรมสนุกๆในงาน Muggle Con Thailand 2023 นะคะ พวกเราอยากเจอเพื่อนๆทุกคนเลย